ชีวประวัติขององค์หลวงปู่ละมัย ฐิตะมะโน เพชรบูรณ์
นั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ทุกวันนี้ ว่าท่านเป็นใคร มาจากที่ไหน
เนื่องจากไม่สามารถสืบค้นประวัติที่แท้จริงของท่านได้
จากการที่รู้คร่าวๆ ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์องค์หนึ่ง ที่อยู่กระทำกิจบางอย่าง เพื่อสืบทอดและปกป้องพระพุทธศาสนา
ท่านเคยเล่าว่า ท่านเคยอยู่เขมร30ปี ลาว30ปี
ไทยเกินกว่า30ปี ไม่มีที่ไหนที่ท่านไม่เคยไป ท่านไปมาแล้วทุกที่
พออ่านแล้วได้ฟังตอนนี้น่าคิดในความหมายของหลวงปู่ที่ท่านพูด ว่าท่านไม่ใช่พระธรรมดา แบบปรกติทั่วๆไป
เพราะการไปของท่านในสมัยก่อน
ไม่มีรถรา ไม่มีเครื่องบิน แต่เป็นการเดินธุดงค์ ด้วยเท้าเปล่าๆ ไปทั้งศรีลังกา จนได้เจอครูบาอาจารย์ของท่าน
ปัจจุบัน ครูบาอาจารย์ของท่านก็ยังคง ทรงสังขารอยู่ที่ศรีลังกา อายุไม่ต้องไปพูดถึง เพราะมันเป็นปัจจัตตัง มนุษย์โลกที่มากิเลสตัณหาเข้าไม่ถึง
และท่านมีความผูกพันธุ์กับหลวงปู่เทพโลกอุดร ตั้งแต่ยังเป็นเณร
อีกทั้งมีความเกี่ยวข้องกับสำเร็จลุนพระอริยะสงฆ์ที่สองฝั่ง ไทยลาว ให้การนับถือทั้งอิทธิฤทธิ์ และบุญฤทธิ์ และธาตุธรรมกรรมฐาน
สมัยที่หลวงปู่ละมัยท่านยังทรงสังขารอยู่ ท่านเป็นมิ่งขวัญ ที่สำคัญในการการปกป้องพระพุทธศาสนาและภัยอันตรายต่างๆในประเทศไทย
ใครที่เคยได้ไปกราบท่านสักครั้ง คงจะไม่สามารถลืมพระแบบท่านได้อีก
เพราะด้วยหลวงปู่ท่านมีทั้งคุณธรรมขั้นสูง ปฏิภานโวหารขั้นสูง ความรู้แตกฉานในทุกๆสรรพสิ่ง
จนบรรดาพระเกจิดังๆหลายๆองค์ต้องเดินทางไปกราบของความรู้จากท่าน
และพูดยกย่องในคุณธรรมของท่าน ยกตัวอย่าง เช่น
หลวงพ่อรวย วัดตะโก
หลวงปู่ใหญ่ พิษณุโลก
หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ก็เป็นศิษย์ของท่าน
หลวงปู่น๊ะ วัดหนองบัว
หลวงพ่อบุญลือ วัดคำหยาด
หลวงปู่เปรี่ยม วัดกำแพง
หลวงปู่พวง วัดน้ำพุสามัคคี
หลวงปู่บุญมา วัดแดนคงคาวนาราม
หลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรม
หลวงปู่ครูบาสิงโต
และหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
และอีกมากมาย ที่เคารพในคุณธรรมของท่าน
ว่าจะหาพระแบบท่านไม่ได้ง่ายๆเลย พระป่าพระโบราณออกมาโปรดชาวบ้านชาวเมือง
นับเป็นบุญกุศลของชาวไทยยิ่งนัก
ด้วยความเคารพในองค์หลวงปู่อย่างสุดซึ้ง
หลวงปู่ อายุ 135 ปีจริงหรือ มีคำตอบครับ
เรื่องราวของพระสงฆ์อายุยืนที่สุดในโลก เปิดเผยขึ้น เมื่อหลวงปู่ละมัย ฐิตมโน อายุ 135 ปี
เจ้าสำนักสงฆ์สวนป่าสมุนไพร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พระดังของ จ.เพชรบูรณ์
รายนี้ได้เดินทางมาที่ จ.เชียงใหม่พร้อมกับพระครูปัญญาวุธากร อายุ 72 ปี เจ้าอาวาสวัดคีรีบัววนาราม ต.เขาน้อย อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี
และเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน เพื่อร่วมพิธีพุทธาภิเษกพระพิฆเนศนั่งสังข์ ที่วัดพระบาทปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
พระครูปัญญาวุธากร อายุ 72 ปี เหลนของหลวงปู่ละมัย บอกว่าหลวงปู่ละมัยมีศักดิ์เป็นทวดของตน
ปัจจุบันถือเป็นพระสงฆ์ที่มีอายุมากที่สุดในประเทศไทย
แต่เนื่องจากเมื่อ 135 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการทำใบสำคัญการแจ้งเกิด ทำให้หลวงปู่ละมัยไม่มีใบเกิดแสดงอายุ จึงขาดหลักฐานเลยไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในกินเนสต์บุ๊ค
แต่จากการสอบถามประวัติต่างๆจากบรรพบุรุษซึ่งเป็นลูกหลานรวมทั้งตัวหลวงปู่ละมัยเอง เมื่อบวกลบตัวเลขและนับย้อน พ.ศ.ไปตามคำบอกเล่า
ทำให้ทราบว่าหลวงปู่ละมัยมีอายุถึง 135 ปี มากกว่าหญิงชาวญี่ปุ่นที่มีอายุ 120ปี ซึ่งทางกินเนสต์บุ๊คได้เคยจดทำบันทึกไว้
แต่โดยส่วนตัวแล้วหลวงปู่ไม่ค่อยยอมที่จะเปิดตัวเรื่องอายุยืนให้กับใครฟัง
ท่านจะบอกเป็นปริศนาไม่ซ้ำกันบ้าง ทำให้คนตีความเข้าใจไปคนะทิศคนละทาง
ด้วยที่อายุของท่านมากยาวนานจนเป็นเรื่องอาจินไตยกว่าปุถุชนนั่นเอง
พระครูปัญญาวุธากร บอกอีกว่า สาเหตุที่ทำให้หลวงปู่และตระกูลมีอายุยืน 100 ปีขึ้นไปนั้น
คาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการที่หลวงปู่ท่านสำเร็จธาตุ และชอบกินสมุนไพร ชอบฉันท์หมากเป็นประจำ
และแม้หลวงปู่ท่านจะอายุมาก แต่ความที่เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดัง ตอนนี้จึงยังคงรับกิจนิมนต์ไปร่วมพิธีกรรมที่สำคัญตามวัดต่าง ๆทั่วประเทศ
สำหรับประวัติของหลวงปู่ละมัย ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่นาลอง จ.บุรีรัมย์ ฃ
อายุ 4 ขวบ โยมบิดาได้พาขึ้นเกวียนเดินทางออกจากประเทศไทยไปอยู่ที่เขมร
ระหว่างที่อยู่เขมรหลวงปู่ทำไร่ทำสวน กระทั่งอายุได้ 28 ปี (ปี พ.ศ.2443) จึงบวชเป็นพระที่เขมร
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2504 จึงกลับประเทศไทย โดยได้มาพัฒนาและตั้งสำนักสงฆ์ขึ้นที่สวนป่าสมุนไพร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พร้อมจัดตั้งเป็นศูนย์ปลูกสมุนไพรนานาชนิด
และหลวงปู่ท่านได้ใช้ชีวิตธุดงค์ เกือบตลอดทั้งชีวิต จนสำเร็จคุณธรรมขั้นสูง
และในสมัยหลวงปู่ท่านออกจากป่า หลวงปู่ท่านได้เคยพบเจอและทดลองวิชากับครูบาอาจารย์ดังๆในอดีตของประเทศไทยมากมาย
อีกแหล่งที่มาครับ
หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน สำนักสงฆ์คีรีนามฑาสุขาวดี(สวนสมุนไพร) ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
ตามใบสุทธิ ที่หลวงพ่อสินชัย ได้จดบันทึกไว้ก่อนที่ไฟจะไหม้กุฏิหลวงปู่เมื่อปี พ.ศ.2537 ได้ระบุไว้ว่า เกิดปี พ.ศ.2403
หลวงปู่ท่านบวชเณรเมื่ออายุ 15 ปี เรียนมูลกัจจายน์ บวชพระปี พ.ศ.2443
เดินธุดงค์มาทั่ว ทั้งไทย ลาว เขมร พม่า ได้วิชาต่างๆมามาก จากในสถานที่ลึกลับต่างๆ เช่นเขาพนมฉัตร และที่อื่นๆ
และท่านจริตชอบช่วยเหลือลูกศิษย์ลูกหาด้วยการทำปรอท และทำยาสมุนไพรต่างๆมาโดยตลอด
หลวงปู่เป็นพระที่มีน้ำใจเยือกเย็น มีเมตตา แก่เหล่าลูกศิษย์มาโดยตลอด
แม้ว่าบางครั้งคำพูดของท่าน อาจจะฟังดูดุดัน แต่ท่านก็ไม่ได้มีจิตใจที่กระด้างเหมือนคำพูดท่านแม้แต่น้อย
แท้ที่จริงแล้วคือการลองใจ ระวังท่าน กับผู้ที่มาหาท่าน ว่าเคารพศรัทธาท่านขนาดไหน
หลวงปู่ท่านกลับชุ่มเย็น มั่นคง หนักแน่น เป็นหลักชัยให้แก่เหล่าลูกหลานได้ตลอด
การบุญการกุศลหลวงปู่ท่านก็รับเป็นประธานอุปถัมภ์ในการก่อสร้างหลายๆที่ ที่ผมได้สัมผัสก็คือ การก่อสร้างพระธาตุเกษแก้วจุฬามณี ที่วัดแดนคงคาวนาราม จ.ชัยภูมิ
วัดแดนคงคาวนาราม นี้หลวงปู่บุญมา เจ้าอาวาส ท่านได้เคยธุดงค์ไปในประเทศต่างๆของแหลมอินโดจีนนี้มาอย่างทะลุปรุโปร่ง
และได้พบกับหลวงปู่ละมัยในป่า ตั้งแต่สมัยท่านเป็นเณร และได้รับการสั่งสอนอบรมสมาธิจิต วิชา คาถาอาคมต่างๆพอสมควร จึงกราบลาหลวงปู่ออกธุดงค์ต่อไป
และเมื่อผ่านไปยังประเทศอินเดีย ก็ได้รับพระบรมสารีริกธาตุมาด้วย และท่านก็ได้นำมาเก็บรักษาไว้ ณ วัดแดนคงคาวนาราม
ลุถึงปีพ.ศ.2545 หลวงปู่บุญมา อายุได้ 108 ปี มีความต้องการที่จะสร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่ก็เกรงว่าจะไม่สำเร็จ จึงปรึกษากับเหล่าศิษยานุศิษย์
และได้ทราบว่า หลวงปู่ละมัย ยังดำรงขันธ์อยู่ จึงให้คณะศิษย์ ไปกราบอาราธนานิมนต์
พระเดชพระคุณหลวงปู่ละมัยมาเป็นประธาน ซึ่งท่านก็รับนิมนต์จนการก่อสร้างสำเร็จ และยกฉัตรไปแล้วเมื่อปีพ.ศ.2552
หลวงปู่บุญมา ได้บอกกับลูกศิษย์ว่า "หลวงปู่(ละมัย)เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่(บุญมา)นะ เคยพบกับท่านตอนธุดงค์
ตอนนั้นเราอายุ 15 ปีได้ ท่านจะเป็นผู้ที่สร้างพระธาตุสำเร็จ เพราะท่านมีบารมีมาก" หลังจากหลวงปู่ละมัยรับนิมนต์ได้ไม่นาน หลวงปู่บุญมาก็มรณภาพลง
วัตถุมงคลของหลวงปู่ละมัย ที่เด่นๆคือ ปรอท และพระปรอท และแม่ซื้อประจำวันครับ
ส่วนอย่างอื่นก็แล้วแต่ท่านจะสั่งให้ทำ หรือลูกศิษย์สร้างถวาย
หลวงปู่ละมัยได้มรณภาพเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2554 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 2.00 น. ในระหว่างเข้าสมาธิ
ก่อนมรณภาพได้สั่งไว้ว่า อย่าทำอะไรกับสังขารท่าน เอาไว้เฉยๆ ไม่ต้องฉีดยา ไม่ต้องสวด 9 วัน
และมีพิธีบรรจุศพลงในโลงแก้ว เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2554 เวลา13.00 น. รวมสิริอายุได้ 151 ปี
|